บทนำ: พลิกโฉมการจัดการ IT ด้วย Dynatrace Software Intelligence
Dynatrace: ในยุคดิจิทัลที่องค์กรต้องเผชิญกับระบบ IT ที่ซับซ้อนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Cloud-Native Applications, Microservices, Multi-Cloud หรือความคาดหวังของผู้ใช้ที่สูงขึ้น—เครื่องมือ Monitoring แบบเดิมไม่สามารถตอบโจทย์ได้อีกต่อไป
สิ่งที่องค์กรต้องการในวันนี้ ไม่ใช่แค่ข้อมูลดิบจำนวนมาก แต่คือ “คำตอบ” ที่ชัดเจนและนำไปใช้ได้จริง เพื่อให้ทีม IT แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วและขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ
Dynatrace: แพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับ IT ยุคใหม่
Dynatrace คือแพลตฟอร์มแบบ All-in-one ที่รวมพลังของ Observability, AI และ Automation เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ช่วยให้องค์กรเข้าใจและบริหารจัดการระบบ IT ที่ซับซ้อนได้อย่างชาญฉลาด
หัวใจของ Dynatrace คือ Davis® AI — AI Engine อัจฉริยะที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลจากทั้งระบบ IT Stack ได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่ Metrics, Logs, Traces, ไปจนถึงประสบการณ์ผู้ใช้ เพื่อระบุปัญหา คาดการณ์เหตุการณ์ล่วงหน้า และเสนอแนวทางแก้ไขได้แบบอัตโนมัติ
ระบบ Observability ของ Dynatrace ไม่ได้แค่ “ตรวจสอบ” แต่เข้าใจ “ความสัมพันธ์” และ “ต้นตอ” ของปัญหาได้ลึกซึ้ง ช่วยลด Alert Noise และเพิ่มความเร็วในการตัดสินใจของทีม IT ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตอบโจทย์องค์กรไทยในยุค Digital Transformation
สำหรับองค์กรไทยที่กำลังเร่งทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล ทั้งด้าน Cloud, Modern Application และ DevOps – Dynatrace คือพาร์ตเนอร์ที่พร้อมช่วยให้องค์กรก้าวข้ามความซับซ้อนของเทคโนโลยี เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก “10 ฟีเจอร์เด็ดของ Dynatrace” พร้อมอธิบายประโยชน์ที่แต่ละฟีเจอร์มอบให้องค์กรได้อย่างจับต้องได้
ตารางสรุป: 10 ฟีเจอร์เด่นของ Dynatrace และประโยชน์หลักสำหรับองค์กรยุคใหม่
เพื่อให้เห็นภาพรวมของความสามารถอันทรงพลังของ Dynatrace ตารางด้านล่างนี้สรุป 10 ฟีเจอร์เด่นพร้อมประโยชน์หลักที่องค์กรยุคใหม่จะได้รับ ซึ่งจะมีการขยายความในรายละเอียดในส่วนถัดไป
| ลำดับที่ | ฟีเจอร์ (Feature) | ประโยชน์หลัก (Core Benefit) |
| 1 | ระบบ Observability อัตโนมัติเต็มรูปแบบด้วย OneAgent และ Smartscape | มองเห็นภาพรวม IT stack ทั้งหมดแบบ real-time อย่างครบวงจร ติดตั้งง่าย และแสดงผลความสัมพันธ์ขององค์ประกอบต่างๆ อัตโนมัติ |
| 2 | การวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกและคาดการณ์ด้วย AI อัจฉริยะ Davis® | ชี้ชัดต้นตอของปัญหาอย่างแม่นยำ ลดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น (false alarms) และคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า |
| 3 | ความปลอดภัยของแอปพลิเคชันขั้นสูง (Dynatrace Advanced Application Security – RVA & RAP) | ตรวจจับและป้องกันภัยคุกคามในระดับ Runtime พร้อมประเมินความเสี่ยงของช่องโหว่ ผสาน DevSecOps อย่างมีประสิทธิภาพ |
| 4 | การติดตามประสบการณ์ผู้ใช้งานดิจิทัลแบบครบวงจร (DEM – RUM & Session Replay) | เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานจริง (Real User Monitoring) และจำลอง Session การใช้งานเพื่อแก้ไขปัญหา UX/UI ได้อย่างตรงจุด |
| 5 | การทดสอบเชิงรุกด้วย Synthetic Monitoring | ตรวจสอบความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันเชิงรุกจากหลากหลายพื้นที่ทั่วโลก ก่อนที่ผู้ใช้งานจริงจะพบปัญหา |
| 6 | การจัดการและวิเคราะห์ Log อัจฉริยะด้วย Grail™ | จัดการและวิเคราะห์ข้อมูล Log ปริมาณมหาศาลได้อย่างรวดเร็วและคุ้มค่า โดยไม่ต้องทำ Indexing ล่วงหน้า พร้อมภาษา DQL ที่ทรงพลัง |
| 7 | Cloud-Native Observability สำหรับ Kubernetes และ Microservices | ให้ Observability ที่สมบูรณ์แบบสำหรับสถาปัตยกรรม Cloud-Native ที่ซับซ้อน รวมถึง Hybrid Cloud เพื่อการบริหารจัดการและแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ |
| 8 | AutomationEngine เพื่อระบบอัตโนมัติอัจฉริยะบนคลาวด์ | ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา (remediation) และการดำเนินงาน (operations) ต่างๆ แบบอัตโนมัติ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกจาก AI |
| 9 | PurePath® Distributed Tracing เพื่อการติดตาม Transaction อย่างละเอียด | ติดตามทุกขั้นตอนของ Transaction ตั้งแต่ต้นจนจบ (end-to-end) พร้อมรายละเอียดระดับ Code-Level ช่วยให้แก้ไขปัญหา Performance ได้ลึกซึ้ง |
| 10 | Business Analytics เพื่อเชื่อมโยงประสิทธิภาพ IT สู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ | เชื่อมโยงข้อมูลประสิทธิภาพของระบบ IT เข้ากับ KPI ทางธุรกิจ ทำให้มองเห็นผลกระทบต่อธุรกิจและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น |
10 ฟีเจอร์เด่นของ Dynatrace
1. ระบบ Observability เต็มรูปแบบอัตโนมัติด้วย OneAgent และ Smartscape
รากฐานสำคัญของ Dynatrace คือ Observability แบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วย OneAgent และ Smartscape
OneAgent – หัวใจของการเก็บข้อมูลแบบอัตโนมัติ
OneAgent เป็น Agent เพียงไฟล์เดียวที่ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว สามารถค้นพบและติดตั้งเครื่องมือวัดผลโดยอัตโนมัติ (Auto-discovery and Auto-instrumentation) ตรวจจับทุก Processes, Technologies, Microservices, Containers และ Cloud Instances โดยไม่ต้องตั้งค่าด้วยตนเอง OneAgent ให้การครอบคลุมแบบ Full-Stack ตั้งแต่ Infrastructure ถึง Real User Experience
Smartscape – แสดงภาพโครงสร้างและความสัมพันธ์แบบ Real-time
Smartscape สร้างแผนภาพ Topology ของสภาพแวดล้อม IT ทั้งหมดแบบ Real-time แสดงความเชื่อมโยงและความสัมพันธ์ (Dependencies) ระหว่างองค์ประกอบต่างๆ และอัปเดตอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง
Smartscape สามารถแสดงผลได้ทั้งในแนวตั้ง (Full-stack dependencies) คือความสัมพันธ์ระหว่างชั้นต่างๆ ของเทคโนโลยี และในแนวนอน (Cross-tier call relationships) คือความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบในชั้นเดียวกันซึ่งเป็นความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของระบบได้ครบในภาพเดียว
ประโยชน์สำหรับองค์กร
OneAgent และ Smartscape ช่วยลดความซับซ้อนในการติดตั้งและดูแลรักษาระบบ Dynatrace Monitoring มอบภาพรวมของ IT ทั้งหมดจากแหล่งเดียว (Single source of truth) และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับ Davis® AI ในการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ช่วยให้ทีม IT ตอบสนองต่อปัญหาได้เร็วขึ้น (Faster TTR) ซึ่งเป็นหัวใจของ Dynatrace Observability
2. การวิเคราะห์ปัญหาเชิงลึกและคาดการณ์ด้วย AI อัจฉริยะ Davis®
Davis® AI คือ AI Engine ที่ทำงานด้วย AI ถึง 3 ชนิดประกอบไปด้วย Predictive AI, Causal AI และ Generative AI: Davis CoPilot เพื่อทำความเข้าใจ “เหตุและผล” ในระบบ IT โดยอาศัยข้อมูล Full-Stack จาก OneAgent และ Topology จาก Smartscape Davis® ให้ “คำตอบ” ที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้ทันที โดยไม่ต้องฝึกสอนหรือตั้งค่าซับซ้อน
ความสามารถหลักของ Davis® AI
- Automatic Root Cause Analysis: วิเคราะห์และชี้ชัดสาเหตุที่แท้จริงของปัญหาโดยอัตโนมัติ
- Anomaly Detection & Predictive Insights: ตรวจจับความผิดปกติและคาดการณ์ปัญหาในอนาคต เช่น คาดการณ์ Disk Space หรือปริมาณการใช้งาน
- Noise Reduction: ลดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น (False Positives)
- Automated Remediation Support: ให้ข้อมูลสำหรับการแก้ไขปัญหาอัตโนมัติผ่าน AutomationEngine
ประโยชน์สำหรับองค์กร
Davis® AI ช่วยลดเวลาในการค้นหาและแก้ไขปัญหา (MTTR) อย่างมีนัยสำคัญ ช่วยให้แก้ไขปัญหาเชิงรุกก่อนส่งผลกระทบ เพิ่มประสิทธิภาพทีม IT และสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจโดยเชื่อมโยงปัญหา IT กับ Business KPIs
3. ความปลอดภัยของแอปพลิเคชันขั้นสูง (Dynatrace Advanced Application Security – RVA & RAP)
Dynatrace Application Security ผสานความสามารถด้านความปลอดภัยเข้ากับแพลตฟอร์ม Observability เพื่อรับมือกับภัยคุกคามในยุค Cloud-Native และ DevSecOps
Runtime Vulnerability Analytics (RVA) – รู้ทันช่องโหว่ใน Production
RVA ตรวจจับและประเมินความเสี่ยงของช่องโหว่ในแอปพลิเคชันขณะทำงานจริง (Runtime) ทั้งใน Production และ Pre-production โดยประเมินความเสี่ยงจากเส้นทางการเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมการทำงานจริง ทำให้สามารถให้ความสำคัญกับช่องโหว่ที่ “ถูกโจมตีได้จริง”
Runtime Application Protection (RAP) – ปกป้องแอปพลิเคชันแบบ Real-time
RAP ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันแอปพลิเคชันแบบ Real-time ตรวจจับและยับยั้งการโจมตี เช่น SQL Injection, Command Injection ได้ทันที โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกระดับ Code และการวิเคราะห์ Transaction จริง
ประโยชน์สำหรับองค์กร
Dynatrace Advanced Application Security ช่วยเสริมสร้าง DevSecOps ลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตี จัดลำดับความสำคัญในการแก้ไขช่องโหว่อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่ายและความเสียหายทางธุรกิจ และผสานรวมความปลอดภัยเข้ากับ Dynatrace Monitoring และ Dynatrace Observability อย่างไร้รอยต่อ
4. การติดตามประสบการณ์ผู้ใช้งานดิจิทัลแบบครบวงจร (DEM – RUM & Session Replay)
ประสบการณ์ผู้ใช้งาน (UX) คือปัจจัยชี้ขาดความสำเร็จในยุคดิจิทัล Dynatrace Digital Experience Monitoring (DEM) ช่วยให้องค์กรเข้าใจ UX อย่างครบถ้วน
Real User Monitoring (RUM) – ติดตามทุก Interaction ของผู้ใช้จริง
RUM เก็บข้อมูลการใช้งานแอปพลิเคชันของผู้ใช้จริงทุกคน ทุก Session อย่างละเอียด ทั้งบน Web และ Mobile รวบรวม Metrics สำคัญ เช่น Load times, Error rates และ User actions ช่วยให้เห็นภาพรวมประสิทธิภาพที่ผู้ใช้ได้รับจริง และสามารถแบ่งกลุ่มผู้ใช้เพื่อวิเคราะห์ได้
Session Replay – จำลองการใช้งานของผู้ใช้เพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำ
Session Replay บันทึกและแสดงภาพการใช้งานแอปพลิเคชันของผู้ใช้ในรูปแบบวิดีโอ ช่วยให้เข้าใจปัญหาที่ซับซ้อนหรือปัญหาที่ผู้ใช้รายงานแต่จำลองซ้ำได้ยาก ทำให้วินิจฉัยและแก้ไขปัญหา UX/UI ได้ตรงจุด
ประโยชน์สำหรับองค์กร
DEM ช่วยปรับปรุง UX/UI ได้ตรงเป้าหมาย ลดเวลาแก้ไขปัญหา Frontend ขับเคลื่อนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยข้อมูล และสนับสนุนการทดสอบ A/B Testing เมื่อทำงานร่วมกับ Davis® AI จะสามารถยกระดับจากการแก้ไขข้อผิดพลาดทางเทคนิคไปสู่การปรับปรุงเส้นทางดิจิทัลทั้งหมดของผู้ใช้
5. การทดสอบเชิงรุกด้วย Synthetic Monitoring
Dynatrace Synthetic Monitoring ช่วยตรวจสอบความพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพของแอปพลิเคชันเชิงรุกจากทั่วโลก ก่อนที่ผู้ใช้จริงจะได้รับผลกระทบ
Synthetic Monitoring คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ
Synthetic Monitoring คือการจำลองพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อทดสอบ Availability, Performance และ Functionality ของแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือ API อย่างสม่ำเสมอและอัตโนมัติ ช่วยตรวจจับปัญหาเชิงรุก (Proactive issue detection)
Use Cases ของ Synthetic Monitoring
รองรับ Use Cases หลากหลาย เช่น Availability Monitoring, Performance Baselining and SLA Monitoring, Third-Party Provider Monitoring, Pre-Production Testing และ Competitive Benchmarking
ประโยชน์สำหรับองค์กร
ช่วยเพิ่ม Uptime และความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชัน ลดความเสี่ยงที่ผู้ใช้จะเจอปัญหา รับประกันคุณภาพบริการทั่วโลก ให้ข้อมูล Performance ที่สม่ำเสมอ และช่วยระบุ Bottlenecks เมื่อใช้ร่วมกับ RUM จะให้ภาพรวมสุขภาพแอปพลิเคชันที่สมบูรณ์แบบ
6. การจัดการและวิเคราะห์ Log อัจฉริยะด้วย Grail™
Dynatrace Grail™ ปฏิวัติการจัดการ Log โดยเป็น Causational Data Lakehouse ที่ใช้สถาปัตยกรรม Massively Parallel Processing (MPP) รองรับการจัดเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาล ไม่เพียงแค่ Log แต่รวมถึง Metrics, Traces, Business Events และ Security Data
Grail™ – Data Lakehouse สำหรับ Observability, Security และ Business Data
คุณสมบัติเด่นคือ Indexless, Schema-on-Read Storage ไม่ต้อง Indexing หรือกำหนด Schema ล่วงหน้า และ Dynatrace Query Language (DQL) ภาษา Query ทรงพลังสำหรับวิเคราะห์ข้อมูลใน Grail
ประโยชน์สำหรับองค์กร
Grail™ ช่วยให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูล Logs ร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ในแพลตฟอร์มเดียว (Unified Analytics) ประหยัดค่าใช้จ่าย (Cost-Efficient) ด้วยสถาปัตยกรรม Indexless รวดเร็วและรองรับข้อมูลมหาศาล (Speed and Scale) ให้การวิเคราะห์ที่มีบริบท (Contextual Analysis) เพิ่มประสิทธิภาพการแก้ไขปัญหา (Enhanced Troubleshooting) และสนับสนุนการสืบสวนด้านความปลอดภัย (Security Forensics) รวมถึงปลดล็อก “Unknown Unknowns”
7. Cloud-Native Observability สำหรับ Kubernetes และ Microservices
Dynatrace มอบ Observability ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับสถาปัตยกรรม Cloud-Native ที่ซับซ้อน เช่น Kubernetes และ Microservices
Dynatrace สำหรับ Kubernetes และ Microservices
OneAgent ค้นพบและ Monitoring ส่วนประกอบใน Kubernetes Clusters โดยอัตโนมัติ ให้ Full-Stack Observability ตั้งแต่ Infrastructure ถึง Workloads และ End-user experience ข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมและเชื่อมโยงพร้อม Context Davis® AI วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตรวจจับปัญหา Performance และ Health รองรับ Hybrid Kubernetes และมี Kubernetes App เฉพาะสำหรับทีม Platform Engineering และ SRE
ประโยชน์สำหรับองค์กร
ช่วยลดความซับซ้อนในการ Monitor และ Troubleshoot เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ Resource ปรับปรุง Application Uptime และ Performance เร่งกระบวนการแก้ไขปัญหา และสนับสนุนทีม Platform Engineering และ SRE รองรับสภาพแวดล้อมที่ Dynamic และ Ephemeral ได้อย่างดีเยี่ยม
8. AutomationEngine เพื่อระบบอัตโนมัติอัจฉริยะบนคลาวด์
Dynatrace AutomationEngine ช่วยขับเคลื่อนระบบอัตโนมัติอัจฉริยะ โดยอาศัย “คำตอบ” ที่แม่นยำจาก Davis® AI
Dynatrace AutomationEngine – ขับเคลื่อนด้วยคำตอบจาก AI
มี No-code/Low-code Editor สำหรับสร้าง Workflow Workflows สามารถ Trigger โดย Event หรือทำงานตาม Schedule และสามารถทำงานร่วมกับเครื่องมืออัตโนมัติที่มีอยู่แล้ว
Use Cases ของ AutomationEngine
เช่น Automated Remediation (การแก้ไขปัญหาอัตโนมัติ) Progressive Delivery Validation (การประเมิน Software Release ใน CI/CD) Automated Routing of Security Vulnerability Info Automated Infrastructure Provisioning/Optimization (เช่น Predictive auto-scaling) และ Automated ITSM Ticketing
ประโยชน์สำหรับองค์กร
ช่วยลดภาระงาน Manual และเพิ่มประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น สร้างความสอดคล้องและมาตรฐาน มุ่งสู่ Closed-loop Automation และขับเคลื่อนด้วยความแม่นยำของ AI ทำให้องค์กรเข้าใกล้ระบบ IT ที่สามารถรักษาตัวเองได้ (Self-healing)
9. PurePath® Distributed Tracing เพื่อการติดตาม Transaction อย่างละเอียด
PurePath® Technology คือเทคโนโลยี Distributed Tracing และ Code-level analysis ที่เป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Dynatrace สำหรับติดตาม Transaction ในระบบ Distributed ที่ซับซ้อน
PurePath® Technology – เอกสิทธิ์ของ Dynatrace
มีความสามารถในการติดตามทุก Transaction (100%) ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางโดยอัตโนมัติและไม่มีการสุ่มตัวอย่าง ให้ข้อมูลเชิงลึกระดับ Code ของทุก Method Call โดยไม่ต้องแก้ไข Code และทำงานร่วมกับ OpenTelemetry ได้
ประโยชน์สำหรับองค์กร
ช่วยให้เข้าใจ Transaction Flow ชัดเจน ระบุ Root Cause ของปัญหา Performance ได้แม่นยำ ลดเวลาแก้ไขปัญหา Performance ได้ถึง 80% ช่วย Optimize Code ทำความเข้าใจ Dependencies ระหว่าง Services และทำงานร่วมกับ Smartscape และ Davis AI เพื่อการวิเคราะห์ที่แม่นยำ
10. Business Analytics เพื่อเชื่อมโยงประสิทธิภาพ IT สู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ
Dynatrace Business Analytics เชื่อมโยงข้อมูลจากโลก IT เข้ากับโลกของธุรกิจ ทำให้เห็นผลกระทบของ IT ต่อ Business KPIs
Dynatrace Business Analytics – เชื่อมช่องว่างระหว่าง IT และ Business
สามารถรวบรวม Business Events จากหลายแหล่ง (Real User Sessions, Traces, Logs, ระบบภายนอก) และจัดเก็บใน Grail™ วิเคราะห์ Business KPIs ในบริบทของ IT Performance ติดตามและ Optimize Business Processes และให้ข้อมูลเชิงลึกด้าน Cloud Costs และ IT Carbon Footprint
ประโยชน์สำหรับองค์กร
ช่วยให้ตัดสินใจโดยอิงข้อมูล (Data-driven Decision Making) จัดลำดับความสำคัญตามผลกระทบทางธุรกิจ (Prioritization Based on Business Impact) ปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างทีม IT และ Business ยกระดับ Customer Experience และ Business Outcomes วัด ROI ของการลงทุน IT ได้เป็นรูปธรรม และสื่อสารกับผู้บริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป: ขับเคลื่อนอนาคตขององค์กรด้วย Dynatrace
Dynatrace คือ Software Intelligence Platform ที่ผสาน Advanced Observability, AI และ Automation เพื่อมอบ “คำตอบ” ที่ชาญฉลาด 10 ฟีเจอร์เด่นช่วยให้องค์กรลดความซับซ้อน เร่งสร้างนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า และขับเคลื่อนการตัดสินใจด้วยข้อมูล
หากองค์กรของคุณกำลังมองหาโซลูชัน Observability ที่พร้อมใช้งานและเชื่อมโยง IT กับธุรกิจอย่างแท้จริง Dynatrace คือคำตอบ
สำหรับองค์กรในประเทศไทย การเลือกใช้ Dynatrace ผ่าน “AskMe + Dynatrace” คือก้าวสำคัญสู่ความสำเร็จในโลกดิจิทัล ตลาด Observability Tool และ AIOps ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สะท้อนความต้องการโซลูชันที่จัดการความซับซ้อนของ IT สมัยใหม่ได้ ซึ่ง Dynatrace พร้อมตอบสนอง
