Power BI Business Intelligence

Power BI สำหรับระบบ Business Intelligence ช่วยให้องค์กรตัดสินใจได้ดีขึ้นด้วยข้อมูลจากภายในองค์กร

Power BI คือเครื่องมือที่ทรงพลังในการทำ Business Intelligence (BI) ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถใช้ข้อมูลภายในองค์กรในการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยใช้การแสดงผลข้อมูลผ่านแผนภาพและแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย เพื่อนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริงในกระบวนการตัดสินใจต่างๆ ขององค์กร

Power BI: เครื่องมือสำหรับการทำ Business Intelligence

การนำ Power BI มาใช้ในการทำ Business Intelligence ช่วยให้องค์กรสามารถสร้างการแสดงผลข้อมูลที่มีผลกระทบสูงและเรื่องราวที่น่าสนใจจากข้อมูลได้ โดยการใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันและมีความหมายในการวิเคราะห์ ทำให้การตัดสินใจภายในองค์กรสามารถขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ Power BI นั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลได้เท่านั้น แต่ยังสามารถวิเคราะห์และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจที่มีพื้นฐานจากข้อมูล

Business Intelligence (BI) คืออะไร?

Business Intelligence (BI) คือกระบวนการในการใช้เทคโนโลยีเพื่อรวบรวม วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลในรูปแบบที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจได้ เทคโนโลยี BI สามารถเปลี่ยนข้อมูลดิบให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่า และสามารถนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจอย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น BI ช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในธุรกิจของตน และสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • การเตรียมข้อมูล (Data Preparation): หนึ่งในขั้นตอนสำคัญของ BI คือการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ และจัดรูปแบบข้อมูลให้พร้อมสำหรับการวิเคราะห์ ข้อมูลที่ถูกจัดเตรียมอย่างดีจะช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การค้นหาข้อมูล (Data Querying): การใช้ข้อมูลในการตอบคำถามที่เฉพาะเจาะจงเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญของการวิเคราะห์ข้อมูล การค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากชุดข้อมูลขนาดใหญ่จะช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ในการวิเคราะห์ได้ตรงกับความต้องการ
  • การแสดงผลข้อมูล (Data Visualization): การนำข้อมูลที่ได้รับการวิเคราะห์มานำเสนอในรูปแบบของแผนภูมิ กราฟ หรือแผนภาพอื่นๆ เป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น การแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่ายจะช่วยให้การตัดสินใจมีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
  • การรายงานผลการวัดประสิทธิภาพ (Performance Metrics Reporting): การเปรียบเทียบข้อมูลในปัจจุบันกับข้อมูลในอดีตเป็นสิ่งสำคัญในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ การรายงานผลผ่านตัวชี้วัดต่างๆ จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน
  • การขุดค้นข้อมูล (Data Mining): การใช้สถิติและเทคโนโลยีการเรียนรู้ของเครื่องเพื่อค้นหาแนวโน้มในข้อมูลขนาดใหญ่เป็นขั้นตอนที่ช่วยให้องค์กรสามารถคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ การขุดค้นข้อมูลนั้นช่วยให้เราสามารถค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยวิธีการวิเคราะห์ปกติ
Promotion Power Bi

Promotion Power BI:
คุ้ม 2 ต่อ พร้อมข้อเสนอสุดคุ้ม!

  • ฟรี! การติดตั้งการใช้งาน Power BI Pro/ Premium Per User บนระบบ Cloud
  • ฟรี! พร้อมอบรมการใช้งานออนไลน์ และการดูแลให้บริการตลอดระยะเวลาการใช้งาน

การใช้เครื่องมือ BI ในธุรกิจ

แนวคิดของ BI มีมาตั้งแต่ปี 1960 ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่เครื่องมือ BI ที่เป็นที่ให้การยอมรับจำนวนมาก และมีวางจำหน่ายแล้วในตลาด เพื่อช่วยให้องค์กรใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ทางธุรกิจ โดยเครื่องมือ BI ยอดนิยมในปัจจุบัน คือ Power BI ของ Microsoft

คุณค่าหลักของเครื่องมือ BI สมัยใหม่ คือ ช่วยให้วิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้น เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้เร็วขึ้น และอินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายขึ้น แทนที่จะใช้วิธีปกติในการส่งคำร้องขอไปยังทีมข้อมูลส่วนกลาง แต่เครื่องมือ BI ที่ทันสมัยจะช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและตอบคำถามทางธุรกิจได้ด้วยตนเอง

โดยตัวอย่างของหลายๆ องค์กรที่นำเครื่องมือ BI มาใช้ เช่น

  • Volvo Group ใช้ Qlik เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการรายงานผลลัพธ์ทางการเงินที่สำคัญ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจได้ด้วยตนเองอย่างเป็นอิสระภายในองค์กร
  • UChicago Medicine ใช้ Tableau เพื่อสร้างแดชบอร์ดแบบเรียลไทม์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบสนองการปฏิบัติงานที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลของศูนย์การแพทย์ต่อการระบาดใหญ่ของ COVID-19
  • Zurich Insurance Group หันมาใช้ Power BI เพื่อสร้างแพลตฟอร์มแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจ เพื่อสร้างข้อมูลและใช้ประโยชน์จากข้อมูลของบริษัทอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Power BI คืออะไร

Power BI คือ เครื่องมือ BI หรือเครื่องมือสร้างแผนภาพข้อมูลที่ใช้ประโยชน์จากการวิเคราะห์ด้วยภาพ เพื่อช่วยให้ผู้คนและองค์กรใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สูงสุด การแสดงแผนภาพที่สร้างขึ้นโดย Power BI โดยการใช้ excel workflow ในระดับที่สูงขึ้น และช่วยให้ผู้บริหารหรือผู้รับผิดชอบเข้าใจถึงข้อมูลจำนวนมหาศาลที่มีอยู่

จากข้อมูลของ Gartner Power BI เป็นเครื่องมือสร้างแผนภาพข้อมูลชั้นนำที่มีผู้ใช้มากกว่า 6 ล้านคนและ 97% ของบริษัทที่ติดอันดับ Fortune 500 ใช้เครื่องมือนี้เพื่อทำหาข้อมูลเชิงลึก ในการตัดสินใจตามสถานการณ์ต่างๆ โดย Power BI ประกอบด้วยรูปแบบ ดังนี้

Power BI Overview

ภาพรวมของระบบนิเวศ Power BI

ระบบนิเวศของ Power BI ประกอบด้วยองค์ประกอบหลักหลายส่วนที่ทำงานร่วมกัน ได้แก่:

1. Power BI Desktop

Power BI Desktop เป็นแอปพลิเคชันฟรีสำหรับ Windows สามารถ Download ได้ฟรี ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างรายงานและแดชบอร์ดได้ โดยให้การวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างรายงาน รวมถึง Power Query Editor เป็นสภาพแวดล้อมการพัฒนาแบบครบวงจรที่ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล ดำเนินการแปลงข้อมูล และออกแบบภาพข้อมูล Power BI Desktop มักใช้โดยนักวิเคราะห์ข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญด้าน BI ที่ต้องการสร้างรายงานที่ซับซ้อน

2. Power BI Service

Power BI Service เป็นแพลตฟอร์ม SaaS ที่อยู่บนคลาวด์ (https://app.powerbi.com) ซึ่งผู้ใช้สามารถแชร์ ทำงานร่วมกัน และเผยแพร่รายงานที่สร้างขึ้นใน Power BI Desktop ได้ มีคุณสมบัติต่างๆ เช่น พื้นที่ทำงาน แดชบอร์ด และการรีเฟรชข้อมูลตามกำหนดเวลา ทำให้เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการการเข้าถึงรายงาน BI อย่างกว้างขวาง

อย่างไรก็ตาม คุณต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Power BI Pro เพื่อสร้างเนื้อหาใน Power BI Service

3. Power BI บนมือถือแอปสําหรับอุปกรณ์ Windows, iOS และ Android

Power BI บนมือถือเป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นบนอุปกรณ์ Windows, iOS หรือ Android แอปนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูรายงาน ปรับแต่งแผนภาพข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลสำคัญได้แบบเรียลไทม์จากมือถือหรือแท็บเล็ต ทำให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่สำนักงานหรือนอกสถานที่ Power BI บนมือถือช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลของคุณง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

4. Power BI Report Builder

เครื่องมือสำหรับสร้างรายงานใน Power BI เป็นเครื่องมือสําหรับเขียนรายงานแบบแบ่งหน้าซึ่งคุณสามารถเผยแพร่ไปยังบริการของ Power BI ได้ รายงานแบบแบ่งหน้าถูกออกแบบมาเพื่อพิมพ์หรือแชร์ คอลัมน์จะถูกจัดรูปแบบให้พอดีกับหนึ่งหน้า และแสดงข้อมูล ทั้งหมด ในตาราง

5. Power BI Embedded: ช่วยให้นักพัฒนาสามารถฝังหน้ารายงานการวิเคราะห์ของ Power BI ลงในแอปพลิเคชันของตนเองได้ โดยไม่ต้องสร้างการแสดงภาพรายงานและตัวรายงานของตัวเองใหม่ทั้งหมด

6. Power BI Report Server: โซลูชันแบบ On-Premise สำหรับการติดตั้ง Power BI ภายในองค์กรที่สามารถ บริหารจัดการรายงานแล้วควบคุมสิทธิการเข้าถึงของ User ปรับใช้และจัดการรายงานภายในระบบเครือข่ายขององค์กร

ความแตกต่างระหว่าง Power BI Desktop และ Power BI Service

ความแตกต่างหลักระหว่าง Power BI Desktop และ Power BI Service อยู่ที่การใช้งาน Power BI Desktop ใช้สำหรับการสร้างรายงาน ในขณะที่ Power BI Service ใช้สำหรับการเผยแพร่และการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ Power BI Service ยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Power BI Apps ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถรวบรวมและแชร์เนื้อหากับกลุ่มผู้ใช้เฉพาะได้

โดยทั่วไป องค์กรจะใช้ Power BI Pro แบบชำระเงินที่ให้ความสามารถในการสร้างรายงาน การทำงานร่วมกันของ แอปพลิเคชั่นบนมือถือ และความสามารถในการเผยแพร่และแชร์ผ่านแพลตฟอร์มบนระบบคลาวด์ของ Power BI

นอกจากนี้ Power BI Pro ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Microsoft 365 E5 ดังนั้นคุณจึงอาจเข้าถึงได้อยู่แล้วหากคุณอยู่ในองค์กรที่ใช้ Microsoft Office

Power BI Dashboard

คุณสมบัติหลักของ Power BI

Power BI มีคุณสมบัติที่หลากหลายที่ทำให้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการสร้างภาพข้อมูล

1. Interactive Dashboard

Interactive Dashboard ของ Power BI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเจาะลึกลงไปในข้อมูล สำรวจมิติต่างๆ และรับข้อมูลเชิงลึกได้แบบเรียลไทม์ แผงควบคุมเหล่านี้สามารถปรับแต่งได้หลากหลาย ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างมุมมองที่ดีที่สุดสำหรับการนำเสนอข้อมูลและความต้องการทางธุรกิจของตน

2. การสร้างภาพข้อมูลแบบกำหนดเอง (Custom Data Visualization)

นอกเหนือจากภาพข้อมูลมาตรฐานแล้ว Power BI ยังรองรับการสร้างภาพข้อมูลแบบกำหนดเอง ผู้ใช้สามารถนำเข้าภาพข้อมูลจาก Power BI Marketplace หรือพัฒนาของตนเองโดยใช้เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา Power BI ความยืดหยุ่นนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำเสนอข้อมูลได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

3. การวิเคราะห์ด้วย AI ด้วย Copilot

Power BI ใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI Copilot ในการให้ข้อมูลเชิงลึกที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น คุณสมบัติต่างๆ เช่น เครื่องมือ Q&A ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลของตนในภาษาธรรมชาติและรับคำตอบในรูปแบบของภาพข้อมูล นอกจากนี้ การวิเคราะห์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น การวิเคราะห์ความรู้สึกและการตรวจจับความผิดปกติ ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถระบุแนวโน้มและค่าผิดปกติได้

4. การเชื่อมต่อข้อมูล

Power BI สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงฐานข้อมูล บริการคลาวด์ และแม้แต่ไฟล์ทั่วไป ความสามารถในการเชื่อมต่อนี้มีความสำคัญสำหรับธุรกิจที่ต้องการรวมข้อมูลจากหลายแหล่งเข้าเป็นรายงานเดียวที่เชื่อมโยงกัน

License การใช้งานและราคาของ Power BI

Power BI นำเสนอทางเลือกสิทธิ์การใช้งานหลายรูปแบบเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และขนาดองค์กรที่แตกต่างกัน การทำความเข้าใจตัวเลือกเหล่านี้มีความสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้รับคุณสมบัติทั้งหมดที่ต้องการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเกินความจำเป็น  

A. Power BI Free

  • ค่าใช้จ่าย: ฟรี   
  • คุณสมบัติ: อนุญาตให้ผู้ใช้สร้างรายงานและแดชบอร์ดสำหรับการใช้งานส่วนบุคคลโดยใช้ Power BI Desktop และเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลจำนวนมาก เนื้อหาจะถูกสร้างขึ้นใน “My Workspace”
  • ข้อจำกัด: ไม่สามารถแบ่งปันรายงานหรือทำงานร่วมกับผู้ใช้รายอื่นได้ ไม่สามารถเผยแพร่ไปยังพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกัน (Shared Workspaces)
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ที่กำลังเรียนรู้ Power BI, การวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล, หรือผู้ใช้ที่บริโภคเนื้อหาที่แบ่งปันมาจาก Premium Capacity เท่านั้น

B. Power BI Pro

  • ค่าใช้จ่าย: 5,100 บาทต่อปี (ราคา Promotion พิเศษ)
  • คุณสมบัติ: รวมถึงคุณสมบัติทั้งหมดของเวอร์ชันฟรี บวกกับความสามารถในการเผยแพร่เนื้อหาไปยังพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกัน แบ่งปันรายงานและแดชบอร์ด ทำงานร่วมกับผู้ใช้ Pro รายอื่น และฝังรายงาน (การแบ่งปันแบบ Peer-to-Peer) มีขีดจำกัดขนาดแบบจำลอง 10GB และรีเฟรชข้อมูลได้ 8 ครั้งต่อวัน
  • ข้อจำกัด: ขีดจำกัดขนาดแบบจำลองและอัตราการรีเฟรชต่ำกว่า Premium การแบ่งปันกับผู้ใช้ที่ไม่ใช่ Pro จำเป็นต้องให้เนื้อหาอยู่ใน Premium Capacity
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ใช้รายบุคคลและทีมที่ต้องการสร้าง แบ่งปัน และทำงานร่วมกันบนเนื้อหา Power BI

C. Power BI Premium Per User (PPU)

  • ค่าใช้จ่าย: 24.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อผู้ใช้ต่อเดือน (ชำระรายปี, ราคาเดิมคือ 20 ดอลลาร์สหรัฐ)
  • คุณสมบัติ: รวมถึงคุณสมบัติทั้งหมดของ Pro บวกกับการเข้าถึงคุณสมบัติส่วนใหญ่ของ Premium Capacity เช่น ขนาดแบบจำลองที่ใหญ่ขึ้น (สูงสุด 100GB), การรีเฟรชที่บ่อยขึ้น (48 ครั้งต่อวัน), ความสามารถด้าน AI (เช่น AutoML, Cognitive Services), Deployment Pipelines, Dataflows ขั้นสูง และการเชื่อมต่อ XMLA Endpoint
  • ข้อจำกัด: เนื้อหาที่สร้างโดยผู้ใช้ PPU หรือจัดเก็บในพื้นที่ทำงาน PPU สามารถแบ่งปันได้เฉพาะกับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์การใช้งาน PPU รายอื่นเท่านั้น
  • เหมาะสำหรับ: ผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและองค์กรขนาดเล็กถึงขนาดกลางที่ต้องการคุณสมบัติระดับองค์กร โดยไม่ต้องซื้อ Premium Capacity เต็มรูปแบบ

D. Power BI Premium Per Capacity

  • ค่าใช้จ่าย: เริ่มต้นประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนสำหรับ P1 SKU (ราคาแตกต่างกันไปตามขนาด/SKU ของ Capacity) ปัจจุบันมักกล่าวถึงในบริบทของ Fabric Capacity
  • คุณสมบัติ: ให้บริการทรัพยากรฮาร์ดแวร์เฉพาะในคลาวด์ของ Microsoft อนุญาตให้แบ่งปันเนื้อหากับผู้ใช้ Free (ทั้งภายในและภายนอก) มีพื้นที่เก็บข้อมูลขนาดใหญ่ขึ้น (สูงสุด 100TB สำหรับ Power BI Storage ภายใน Fabric), ประสิทธิภาพสูงขึ้น และคุณสมบัติต่างๆ เช่น การสนับสนุน Multi-geo, Bring Your Own Key (BYOK) จำเป็นสำหรับการปรับใช้ขนาดใหญ่และการกระจายเนื้อหาในวงกว้างโดยไม่ต้องใช้สิทธิ์การใช้งาน Pro ต่อผู้ใช้สำหรับผู้ดู
  • ข้อจำกัด: ค่าใช้จ่ายอาจสูงสำหรับองค์กรขนาดเล็ก จำเป็นต้องมีการจัดการ Capacity อย่างระมัดระวัง
  • เหมาะสำหรับ: องค์กรขนาดใหญ่หรือองค์กรที่มีผู้ดูจำนวนมากที่ต้องการกระจายเนื้อหาในวงกว้าง ต้องการประสิทธิภาพสูง และทรัพยากรเฉพาะ

E. Power BI Embedded

  • ค่าใช้จ่าย: เรียกเก็บเงินเป็นรายชั่วโมงตามประเภทและจำนวน “A” SKUs (Azure SKUs) ที่จัดเตรียมไว้ ราคาผันแปร
  • คุณสมบัติ: อนุญาตให้ ISVs และนักพัฒนาฝังการวิเคราะห์ของ Power BI (รายงาน แดชบอร์ด ไทล์) ลงในแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ หรือพอร์ทัลของตนเอง ทำให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่น ผู้ใช้แอปพลิเคชันไม่จำเป็นต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Power BI รายบุคคล
  • ข้อจำกัด: เหมาะสำหรับสถานการณ์การฝังเป็นหลัก ไม่ใช่สำหรับการใช้งาน BI ภายในทั่วไป
  • เหมาะสำหรับ: นักพัฒนาแอปพลิเคชันและ ISVs ที่ต้องการให้บริการการวิเคราะห์แบบ White-labeled ภายในผลิตภัณฑ์ของตน

F. สิทธิ์การใช้งาน Microsoft Fabric Capacity

  • Fabric ผสานรวม Power BI Premium Capacity เข้าไว้ด้วยกัน Fabric Capacities (“F” SKUs) จัดซื้อตามหน่วยประมวลผล (Capacity Units – CUs) และสามารถจองล่วงหน้า (ซื้อรายปีเพื่อประหยัด) หรือจ่ายตามการใช้งานจริง (Pay-As-You-Go)
  • F64 SKU หรือสูงกว่าใน Fabric อนุญาตให้แบ่งปันเนื้อหา Power BI กับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์การใช้งาน Free
  • ยังคงจำเป็นต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Power BI Pro เพื่อเผยแพร่เนื้อหาไปยังพื้นที่ทำงานของ Fabric
  • Fabric Capacity รวมถึงพื้นที่เก็บข้อมูล OneLake และการเข้าถึง Workloads ทั้งหมดของ Fabric (Data Engineering, Data Science เป็นต้น)
Promotion Power Bi

Promotion Power BI:
คุ้ม 2 ต่อ พร้อมข้อเสนอสุดคุ้ม!

  • ฟรี! การติดตั้งการใช้งาน Power BI Pro/ Premium Per User บนระบบ Cloud
  • ฟรี! พร้อมอบรมการใช้งานออนไลน์ และการดูแลให้บริการตลอดระยะเวลาการใช้งาน
คุณสมบัติ (Feature)FreeProPremium Per User (PPU)Premium/Fabric Capacity (เช่น F64+)Embedded
การสร้างรายงาน (Desktop)
✓ (สำหรับนักพัฒนา)
การเผยแพร่และแบ่งปันเนื้อหา
✓ (ผ่านแอปพลิเคชัน)
การทำงานร่วมกัน✓ (กับผู้ใช้ Pro/PPU)✓ (กับผู้ใช้ PPU)✓ (กับผู้ใช้ Pro/PPU/Free)ผ่านแอปพลิเคชัน
คุณสมบัติ AIพื้นฐานพื้นฐาน✓ (ขั้นสูง)✓ (ขั้นสูง)ขึ้นอยู่กับการตั้งค่า
ขีดจำกัดขนาดแบบจำลอง1 GB (My Workspace)1 GB100 GBสูงสุด 400 GB (ขึ้นอยู่กับ SKU)ขึ้นอยู่กับ SKU
อัตราการรีเฟรช8 ครั้ง/วัน (My Workspace)8 ครั้ง/วัน48 ครั้ง/วัน48 ครั้ง/วัน48 ครั้ง/วัน
พื้นที่เก็บข้อมูลสูงสุด10 GB (My Workspace)10 GB/ผู้ใช้100 TB (รวม)100 TB (รวมสำหรับ Power BI ใน Fabric)ขึ้นอยู่กับ SKU
การเข้าถึงสำหรับผู้ใช้ Free✓ (ใช้ใน Premium/Fabric)✗ (ยกเว้นใน Premium/Fabric)✗ (ยกเว้นใน Premium/Fabric)
✓ (ผู้ใช้ปลายทางของแอป)
ค่าใช้จ่ายต่อผู้ใช้/เดือน (โดยประมาณ)ฟรี5,100 บาทต่อปี
(Promotion)
$24.00
ค่าใช้จ่ายต่อ Capacity/เดือน (โดยประมาณ)เริ่มต้น ~$5,000 (P1)/ผันแปรตาม F SKU
ผันแปรตาม A SKU
กลุ่มผู้ใช้/องค์กรเป้าหมายบุคคล, ผู้เรียนรู้ผู้ใช้รายบุคคล, ทีมขนาดเล็กผู้เชี่ยวชาญข้อมูล, องค์กรขนาดเล็ก-กลางองค์กรขนาดใหญ่, ผู้ชมจำนวนมากนักพัฒนา, ISVs

Power BI และ Microsoft Fabric: อนาคตของการวิเคราะห์แบบครบวงจร

Microsoft Fabric กำลังปฏิวัติวงการการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการรวมเครื่องมือและบริการต่างๆ เข้าไว้ในแพลตฟอร์มเดียว และ Power BI ก็เป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Microsoft Fabric และองค์ประกอบ (OneLake, DirectLake)

Microsoft Fabric คือแพลตฟอร์มการวิเคราะห์แบบครบวงจร (End-to-End) ที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของ SaaS โดยผสานรวมภาระงานด้านข้อมูลต่างๆ เช่น Data Engineering, Data Factory, Data Science, Data Warehouse, Real-Time Intelligence และ Power BI เข้าไว้ด้วยกัน

  • OneLake: คือ Data Lake แบบลอจิคัลเดียวที่รวมศูนย์สำหรับทั้งองค์กร สร้างขึ้นบน Azure Data Lake Storage Gen2 ช่วยขจัดปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย (Data Silos) โดยการจัดเตรียมสำเนาข้อมูลชุดเดียวเพื่อใช้งานร่วมกันในกลไกการวิเคราะห์ต่างๆ OneLake รองรับ “Shortcuts” เพื่อเข้าถึงข้อมูลในที่จัดเก็บอื่นโดยไม่ต้องย้ายข้อมูล
  • DirectLake Mode: คือโหมดการจัดเก็บข้อมูลที่ก้าวล้ำสำหรับแบบจำลองความหมายของ Power BI ใน Fabric ช่วยให้ Power BI สามารถอ่านไฟล์ Delta Parquet จาก OneLake ได้โดยตรง โดยไม่ต้องนำเข้าหรือทำซ้ำข้อมูล ทำให้เข้าถึงข้อมูลได้เกือบเรียลไทม์

การผสานรวม Power BI เข้ากับระบบนิเวศของ Fabric

Power BI เป็นหนึ่งใน Module หลักภายใน Fabric รายการต่างๆ ของ Power BI (รายงาน แดชบอร์ด แบบจำลองความหมาย) จะถูกจัดเก็บและจัดการภายในพื้นที่ทำงานของ Fabric แบบจำลองความหมายของ Power BI สามารถเชื่อมต่อกับข้อมูลใน Fabric Lakehouses และ Warehouses โดยใช้โหมด DirectLake หรือผ่านวิธีการ Import/DirectQuery แบบดั้งเดิม Dataflows Gen2 ใน Fabric สามารถใช้เพื่อเตรียมข้อมูลและโหลดไปยัง Lakehouses หรือ Warehouses ซึ่งจะป้อนข้อมูลให้กับรายงาน Power BI Fabric Data Pipelines สามารถควบคุมการรีเฟรช Dataflows และแบบจำลองความหมายของ Power BI

ประโยชน์ของ Fabric สำหรับผู้ใช้ Power BI (การทำงานร่วมกันที่ดีขึ้น ขั้นตอนการทำงานที่ง่ายขึ้น ความสามารถด้าน AI)

  • การวิเคราะห์แบบครบวงจร (End-to-end Integrated Analytics): Fabric เป็นแพลตฟอร์มเดียวสำหรับวงจรการวิเคราะห์ทั้งหมด ตั้งแต่การนำเข้าข้อมูลไปจนถึง BI ช่วยลดความขัดแย้งระหว่างเครื่องมือและทีมต่างๆ
  • Unified Data Lake (OneLake): ทำให้การจัดการข้อมูลง่ายขึ้น ลดปัญหาข้อมูลกระจัดกระจาย และสร้างแหล่งข้อมูลจริงเพียงแหล่งเดียว
  • ประสบการณ์ผู้ใช้ที่สอดคล้องกัน (Consistent User Experience): UI ที่เหมือนกันใน Workloads ต่างๆ ของ Fabric ทำให้ผู้ใช้เรียนรู้และใช้งานเครื่องมือหลายตัวได้ง่ายขึ้น
  • AI-Enhanced Stack: Fabric ฝังความสามารถด้าน AI (รวมถึง Copilot) ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม ช่วยเร่งการเตรียมข้อมูล การวิเคราะห์ และการสร้างข้อมูลเชิงลึก
  • การบริหารและการกำกับดูแลแบบรวมศูนย์ (Centralized Administration and Governance): ทำให้การจัดการง่ายขึ้นและรับประกันความสอดคล้องด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด

License การใช้งาน Fabric ที่เกี่ยวข้องกับ Power BI

  • ยังคงจำเป็นต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Power BI Pro สำหรับผู้ใช้ที่เผยแพร่เนื้อหา Power BI ไปยัง Fabric
  • Fabric Capacities (เช่น F64 ขึ้นไป) อนุญาตให้แบ่งปันเนื้อหา Power BI กับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์การใช้งาน Power BI Free
  • สิทธิ์การใช้งาน Power BI Premium Per User (PPU) เป็นทางเลือกสำหรับคุณสมบัติขั้นสูงโดยไม่จำเป็นต้องมี Fabric Capacity เต็มรูปแบบสำหรับบางสถานการณ์
  • Fabric Capacity จัดซื้อเป็นหน่วยประมวลผล (CUs) และสามารถจองล่วงหน้าหรือจ่ายตามการใช้งานจริงได้

เปรียบเทียบ Power BI กับเครื่องมืออื่น ๆ

ในตลาดของเครื่องมือ Business Intelligence (BI) มีตัวเลือกมากมายที่องค์กรสามารถเลือกใช้ได้ แต่ละเครื่องมือมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในหัวข้อนี้ เราจะมาเปรียบเทียบ Power BI กับเครื่องมือ BI ยอดนิยมอื่น ๆ เช่น Tableau, Looker Studio (เดิมชื่อ Google Data Studio) และ Qlik Sense เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมที่สุดกับองค์กรของคุณ

Power BI vs Tableau

Tableau เป็นหนึ่งในเครื่องมือ BI ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเดียวกับ Power BI ทั้งสองเครื่องมือนี้มีความสามารถในการแสดงผลข้อมูลที่ทรงพลัง อย่างไรก็ตาม การเปรียบเทียบระหว่าง Power BI และ Tableau มีจุดแตกต่างที่สำคัญหลายอย่าง

หนึ่งในความแตกต่างที่โดดเด่นคือ การใช้งาน Power BI ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายและเป็นมิตรกับผู้ใช้ทั่วไปมากกว่า Tableau ซึ่งอาจต้องการการเรียนรู้ที่มากขึ้นสำหรับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานในการวิเคราะห์ข้อมูลลึกซึ้ง นอกจากนี้ Power BI ยังมีการรวมฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับ Microsoft Office ทำให้การใช้งานสำหรับองค์กรที่ใช้ Office 365 เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

ในด้าน การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูล ทั้งสองเครื่องมือสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลากหลายได้ แต่ Tableau มีความสามารถในการจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่และซับซ้อนได้ดีกว่า Power BI โดยเฉพาะในด้านการแสดงผลข้อมูลที่มีการปรับแต่งซับซ้อน ในขณะที่ Power BI นั้นมุ่งเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและการเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว

Power BI vs Looker Studio (Google Data Studio)

Looker Studio เป็นเครื่องมือ BI ที่มีจุดเด่นในด้านการใช้งานฟรีและความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการของ Google เช่น Google Analytics, Google Ads, และ Google Sheets ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจที่ใช้งานผลิตภัณฑ์ของ Google

อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูล ของ Looker Studio ยังมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับ Power BI Power BI มีฟีเจอร์การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงกว่า และสามารถจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้ดีกว่า ในขณะที่ Looker Studio เหมาะสำหรับการสร้างรายงานเบื้องต้นและการแสดงผลข้อมูลที่ไม่ซับซ้อน

Power BI vs Qlik Sense

Qlik Sense เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ BI ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในองค์กรที่ต้องการเครื่องมือที่มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน Qlik Sense มีจุดเด่นในด้าน การทำงานแบบ associative data model ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาความสัมพันธ์ในข้อมูลได้อย่างลึกซึ้งและรวดเร็ว

Qlik Sense มี ความสามารถในการวิเคราะห์ที่เจาะลึกกว่า ในบางด้าน แต่ก็มีความซับซ้อนในการใช้งานมากกว่าเช่นกัน ผู้ใช้งานที่ไม่คุ้นเคยกับการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอาจพบว่า Qlik Sense มีการเรียนรู้ที่สูงกว่า ในขณะที่ Power BI มุ่งเน้นไปที่การใช้งานที่ง่ายและการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ซึ่งทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับองค์กรที่ต้องการความสะดวกในการใช้งาน

เปรียบเทียบคุณสมบัติของเครื่องมือ BI

คุณสมบัติ (Feature)Power BITableauLooker Studio (Google Data Studio)Qlik Sense
ความง่ายในการใช้งาน (ผู้เริ่มต้น)สูงปานกลางสูงมากปานกลาง
ความง่ายในการใช้งาน (ผู้ใช้ขั้นสูง)สูงสูงปานกลางสูง
การเชื่อมต่อข้อมูล (ความหลากหลาย)สูงสูงมากปานกลาง (เน้น Google)สูง
การเชื่อมต่อข้อมูล (ระบบนิเวศ Microsoft)สูงมากปานกลางต่ำต่ำ
การเชื่อมต่อข้อมูล (ระบบนิเวศ Google)ปานกลางปานกลางสูงมากต่ำ
การสร้างแบบจำลองข้อมูล (พลัง/ความยืดหยุ่น)สูง (DAX, Power Query)สูงปานกลาง (LookML)
สูงมาก (Associative Engine)
การสร้างภาพ (ความหลากหลายในตัว)สูงสูงมากปานกลางสูง
การสร้างภาพ (การปรับแต่ง)ปานกลาง-สูงสูงมากปานกลางสูง
การวิเคราะห์ขั้นสูง (AI ในตัว)สูง (Copilot, Azure ML)ปานกลาง (Einstein AI)ต่ำ
ปานกลาง (Qlik AutoML)
การวิเคราะห์ขั้นสูง (ความลึกทางสถิติ)ปานกลางสูงต่ำสูง
การทำงานร่วมกัน (เรียลไทม์)ปานกลาง (ผ่าน Teams)ปานกลางสูง (คล้าย Google Docs)ต่ำ-ปานกลาง
การทำงานร่วมกัน (การผสานรวมระบบนิเวศ)สูงมาก (Microsoft 365)ปานกลาง (Salesforce)สูง (Google Workspace)ต่ำ
ราคา (ระดับเริ่มต้น)ต่ำ (มีเวอร์ชันฟรี)ปานกลาง (มีเวอร์ชันฟรีจำกัด)ต่ำ (ฟรีเป็นหลัก)สูง
ราคา (ระดับองค์กร)ปานกลาง-สูงสูงสูง (Looker Platform)สูง
ความสามารถบนมือถือสูงสูงปานกลาง (ผ่านเว็บ)สูง
การสนับสนุนและชุมชนสูงมากสูงมากปานกลางสูง
กลุ่มเป้าหมายหลักผู้ใช้ Microsoft, SMBs, BI ทั่วไปนักวิเคราะห์ข้อมูล, องค์กรขนาดใหญ่, Visual Analyticsผู้ใช้ Google, SMBs, รายงานด่วน
การค้นพบข้อมูลซับซ้อน, ข้อมูลขนาดใหญ่

การอัปเดตล่าสุดและแนวโน้มในอนาคตของ Power BI (ณ เดือนพฤษภาคม 2025)

Power BI เป็นแพลตฟอร์มที่ไม่หยุดนิ่ง มีการพัฒนาและเพิ่มคุณสมบัติใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้ใช้และแนวโน้มเทคโนโลยีล่าสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผสานรวมเข้ากับ Microsoft Fabric

A. คุณสมบัติหลักล่าสุด

  • Standalone Copilot ใน Power BI (Preview): ประสบการณ์ Copilot แบบเต็มหน้าจอ ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาและวิเคราะห์รายงาน แบบจำลองความหมาย แอป และ Data Agents ที่ตนเองเข้าถึงได้ แตกต่างจากบานหน้าต่าง Copilot ในรายงานตรงที่สามารถสอบถามข้อมูลข้ามรายการได้ 
  • Translytical Task Flows (Preview): ช่วยให้ปุ่มในรายงาน Power BI สามารถเรียกใช้ Fabric User Data Functions เพื่อดำเนินการอัตโนมัติแบบกำหนดเอง รวมถึงการเขียนข้อมูลกลับ (Data Write-back) การแจ้งเตือนแบบไดนามิก หรือการเรียกใช้ API ภายนอก สิ่งนี้ช่วยเชื่อมช่องว่างระหว่างการวิเคราะห์และการดำเนินการทางธุรกิจ
  • การปรับปรุง Direct Lake Live Editing / Relationship: การแก้ไขแบบสดสำหรับแบบจำลองความหมายในโหมด Direct Lake ช่วยให้สามารถเปลี่ยนแปลงแบบจำลองข้อมูลได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องเผยแพร่ซ้ำหรือรีเฟรช การสร้างความสัมพันธ์ใน Direct Lake ง่ายขึ้นด้วยการเติม Cardinality อัตโนมัติ และตอนนี้สามารถรวมตาราง Import เข้ากับตาราง Direct Lake ในแบบจำลองความหมายเดียวกันได้
  • การปรับปรุงด้านการแสดงผล (Visual Enhancements):
    • สามารถปรับแต่งสีของส่วนของเส้นในแผนภูมิเส้นได้
    • ตัวเลือกการปรับแต่งแผนที่ฐานเพิ่มเติมสำหรับ Azure Maps Visual (การสลับการมองเห็นขอบเขต อาคาร ถนน อย่างอิสระ)
    • การอัปเดตภาพสำหรับแบบจำลองความหมายที่มีการเปิดใช้งาน “discourage implicit measures”
  • AI Instructions สำหรับ Copilot: ผู้สร้างแบบจำลองสามารถให้บริบททางธุรกิจและแนวทางเฉพาะแก่ Copilot เกี่ยวกับวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลในแบบจำลองได้
  • การผสานรวม Microsoft Fabric: การผสานรวมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นกับองค์ประกอบของ Fabric รวมถึง OneLake, Data Pipelines และการกำกับดูแลแบบรวมศูนย์

B. บทบาทของ AI และ Copilot ในอนาคตของ Power BI

Copilot เป็นหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ Microsoft โดยมีเป้าหมายเพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นแบบการสนทนา ใช้งานง่าย และเข้าถึงได้สำหรับผู้ใช้ในวงกว้างขึ้น AI กำลังถูกฝังอยู่ทั่ว Power BI เพื่อช่วยในการเตรียมข้อมูล การสร้างข้อมูลเชิงลึก (เช่น การแนะนำเนื้อหา การสรุปรายงาน) และการสร้างรายงาน การพัฒนาในอนาคตมีแนวโน้มที่จะเห็น Copilot มีความตระหนักในบริบทมากขึ้นและสามารถจัดการงานวิเคราะห์ที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วย AI สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลและผู้ใช้ทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

C. แผนงานและวิสัยทัศน์ของ Microsoft สำหรับ Power BI และ Fabric

  • เครื่องมือ Fabric Roadmap ใหม่ (https://roadmap.fabric.microsoft.com) ให้ข้อมูลอัปเดตแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับคุณสมบัติที่วางแผนไว้
  • การรวมศูนย์บริการข้อมูลและการวิเคราะห์อย่างต่อเนื่องภายใน Microsoft Fabric โดยมี Power BI เป็นประสบการณ์ BI และการแสดงผลหลัก
  • เน้นการกำกับดูแลระดับองค์กร ความปลอดภัย และความสามารถในการปรับขนาดภายใน Fabric
  • การเลิกใช้ Power BI Desktop รุ่น 32 บิตภายในเดือนสิงหาคม 2025 ผลักดันให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้รุ่น 64 บิตเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีขึ้น
  • การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในการเชื่อมต่อข้อมูล ตัวเลือกการแสดงผล (รวมถึงภาพแบบกำหนดเองเพิ่มเติม) และการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับชุดข้อมูลขนาดใหญ่
Power BI Analysis Dashboard

ประโยชน์ของ Power BI

1. ใช้งานง่าย ด้วย User Interface ที่เป็นมิตร

จุดแข็งหลักของ Power BI คืออินเทอร์เฟซผู้ใช้ที่ใช้งานง่ายซึ่งช่วยให้นักวิเคราะห์ทางเทคนิคและไม่ใช่ด้านเทคนิคสร้างการแสดงข้อมูลและวิเคราะห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Power BI ยังสามารถรวมเข้ากับแอป Microsoft ที่มีอยู่มากมาย เช่น Microsoft team, Excel และ PowerPoint ซึ่งทำให้การรวมข้อมูลเชิงลึกเข้ากับ Workflow ที่มีอยู่ง่ายขึ้นมาก

2. สร้างความง่ายในการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกด้วยแดชบอร์ด

แอปพลิเคชัน BI แบบคลาสสิกที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคยคือแดชบอร์ด ซึ่งมีข้อมูลจากหลายแหล่งและนำเสนอเป็นแบบแผนภูมิและกราฟ เพื่อให้เข้าใจถึงกระบวนการและกลยุทธ์ของบริษัท

Power BI มาพร้อมกับคุณลักษณะการรายงานผลที่มากมายสำหรับผู้ใช้ และแดชบอร์ดแบบโต้ตอบที่ออกแบบมาอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลที่หลากหลายและช่วยให้คุณสร้างแบบจำลองข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ (เช่น SQL Server, Excel spreadsheets, Amazon Redshift และอื่นๆ) ด้วยเหตุนี้ แดชบอร์ดเหล่านี้จึงสามารถเพิ่มเติมข้อมูลที่ครอบคลุมจากแหล่งต่างๆ ทั่วทั้งองค์กร

แดชบอร์ดเหล่านี้มีส่วนช่วยในการปรับกลยุทธ์ขององค์กร การเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ และเร่งการตัดสินใจทั่วทั้งองค์กร เมื่อผู้ใช้จำนวนมากได้รับการฝึกอบรมเพื่อสร้างแดชบอร์ดดังกล่าวแล้ว ข้อมูลเชิงลึกจะสามารถทำให้เป็นประชาธิปไตยได้ในวงกว้างเพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงธุรกิจ ส่งผลให้เป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ

3. บอกเล่าเรื่องราวของข้อมูลด้วยการสร้างแผนภาพข้อมูลขั้นสูง

การบอกเล่าเรื่องด้วยข้อมูลนั้นมีความสำคัญมากและน่าสนใจ เนื่องจากข้อมูลที่สร้างขึ้นในยุคดิจิทัลมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยแดชบอร์ดของ Power BI นั้น ถูกออกแบบมาอย่างยอดเยี่ยมสำหรับการเฝ้าติดตามข้อมูลและบอกผู้ใช้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของข้อมูล (data stories๗) นั้นจะมีส่วนช่วยในการจัดรูปแบบ ให้เป็นกระบวนการ step by step เพื่ออธิบายว่าทำไมแนวโน้มเฉพาะจึงเกิดขึ้น

Power BI อนุญาตให้ผู้ใช้รวมผลการแสดงของแผนภาพ (รวมถึงแดชบอร์ด) เพื่อสร้างเรื่องราวเป็นภาพเพื่อสื่อสารข้อมูลเชิงลึก จัดเตรียมบริบท และแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจที่เกิดขึ้น จะส่งผลลัพธ์อย่างไร

การสร้างแผนภาพข้อมูลขั้นสูงนั้นเป็นการบรรยายข้อมูลที่สอดคล้องกัน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ Power BI แตกต่างจากเครื่องมืออื่นๆ เช่น Excel เรื่องราวของข้อมูลนั้นมีประสิทธิภาพสูงสำหรับการวางกรอบกรณีที่น่าสนใจ สำหรับสื่อสารกับผู้มีอำนาจตัดในการสินใจเพื่อที่จะนำไปวางแผนต่อได้ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของ Business Intelligence

Power BI เป็นซอฟต์แวร์วิเคราะห์ธุรกิจที่ได้รับความไว้วางใจจากองค์กรชั้นนำ:

Power BI เป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์วิเคราะห์ธุรกิจที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในองค์กรชั้นนำทั่วโลก บริษัทต่างๆ เช่น Amazon, Adobe, และ Rolls Royce ได้นำ Power BI มาใช้ในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ Power BI ช่วยให้องค์กรสามารถสำรวจ วิเคราะห์ และแชร์ข้อมูลเชิงลึกที่มีค่า และทำให้ข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมในทุกระดับขององค์กร

การใช้ Power BI นั้นไม่เพียงแค่ช่วยให้องค์กรสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้องค์กรสามารถเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันและประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Power BI

เครื่องมือ Power BI เหมาะสำหรับใครบ้าง? Power BI เหมาะสำหรับองค์กรและธุรกิจทุกขนาด ที่ต้องการนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์และตัดสินใจ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร นักวิเคราะห์ข้อมูล หรือผู้ใช้งานทั่วไป

Power BI สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลอะไรได้บ้าง? Power BI สามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลากหลาย เช่น ฐานข้อมูล SQL, Excel, Google Analytics, Salesforce และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย

Power BI มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง? ข้อดีของ Power BI คือความสามารถในการเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลหลากหลายและการใช้งานที่ง่าย ข้อเสียอาจจะเป็นการต้องเสียค่าใช้จ่ายในการใช้ฟีเจอร์บางอย่าง

การเรียนรู้ Power BI ต้องใช้เวลานานแค่ไหน? การเรียนรู้ Power BI สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยมีแหล่งข้อมูลและคู่มือมากมายที่ช่วยในการเรียนรู้

Power BI มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่? Power BI มีทั้งรุ่นฟรีและรุ่นที่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รุ่นที่เสียค่าใช้จ่ายมีฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ช่วยในการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล

เกี่ยวกับ AskMe

AskMe เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการให้บริการด้าน Data Analytics โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ Microsoft Power BI เพื่อช่วยให้องค์กรของคุณขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถที่หลากหลาย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับการนำ Power BI มาใช้ในองค์กรของคุณ

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Data Analytic ด้วย Power BI เพื่อทำให้องค์กรของคุณขับเคลื่อนด้วยข้อมูลอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยบริการ Business Intelligent and Data Platform – Power BI Implementation 

เรามีบริการครบวงจรที่ครอบคลุมทุกขั้นตอนในการใช้ Power BI ตั้งแต่การติดตั้ง ออกแบบ Data Model ไปจนถึงการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล (Data Discovery, Dashboards, Visualization) รวมถึงการสร้างรายงานทางธุรกิจ (Business Reporting) และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยตนเอง (Self-service Analytics) บริการของเราประกอบด้วย:

  • การติดตั้งและออกแบบ Data Model: เราช่วยออกแบบและติดตั้งโมเดลข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับองค์กรของคุณ เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
  • Data Discovery, Dashboards, Visualization: เราช่วยค้นหาข้อมูลที่สำคัญและสร้างแดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย ช่วยให้องค์กรของคุณสามารถมองเห็นข้อมูลที่มีความสำคัญได้อย่างชัดเจน
  • Business Reporting: บริการการสร้างรายงานทางธุรกิจที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กร ช่วยให้การตัดสินใจทางธุรกิจมีข้อมูลสนับสนุนที่ถูกต้องและทันเวลา
  • Self-service Analytics: เราช่วยให้พนักงานในองค์กรของคุณสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาทีมไอทีอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ เราให้บริการอบรมการใช้งาน Microsoft Power BI ทั้งแบบ Onsite และ Online Training เพื่อให้คุณและทีมงานสามารถใช้งาน Power BI ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บริการหลังการขายของเรายังครอบคลุมการดูแลและสนับสนุนโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้การใช้ Power BI ในองค์กรของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น

สามารถติดต่อ AskMe ได้ทันทีเราเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Microsoft Solutions ในประเทศไทย สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือในการเลือกชุดผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับองค์กรของคุณ รวมถึงการติดตั้งและให้บริการหลังการขาย

สอบถามเพิ่มเติมหรือติดต่อขอใบเสนอราคาได้ที่

    • กรุงเทพฯ โทร 02-245-1335-7
    • ภาคเหนือ (เชียงใหม่) โทร 053-858-186
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขอนแก่น) โทร 096-415-4445
    • ภาคตะวันออก (ชลบุรี/ระยอง) โทร 099-614-4995
    • Email: sales@askme.co.th
    • Line: @askme
Related Posts